การประชุมสมัชชาต่อมไร้ท่อระดับนานาชาติ กล่าวถึงวิธีการรักษาเบาหวานชนิดที่ 2 ของไทยอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตสำหรับผู้ป่วย

รศ.พญ.เพ็ญฤดี เสรีประจักษ์ หนึ่งในแพทย์ประจำสถาบันอาหารและยาแห่งเอเชีย เธอได้กระตุ้นให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานชาวไทยทุกคน ศึกษาหัวข้อวิธีการรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ด้วยตนเอง เนื่องจากแพทย์ชาวไทยทั้งหลาย หลบซ่อนความสำเร็จของการค้นคว้าวิจัยวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ของยุโรปจากผู้ป่วย

เบาหวานชนิดที่ 2 ใช้เวลาการศึกษาเป็นระยะเวลามากกว่า 15 ปีแล้ว ความน่าจะเป็นของผลการรักษาในโอกาสหายขาด มีมากถึง 95%

การประชุมสมัชชาต่อมไร้ท่อระดับนานาชาติ เรื่อง โรคเบาหวานครั้งที่ 15 จัดขึ้นที่พัทยา ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 11 ถึง 13 พฤษภาคม 2563 โดยการประชุมครั้งนี้ มีแพทย์จาก 116 ประเทศเข้าร่วม

การประชุมดังกล่าว ประณามการกระทำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างรุนแรง เกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาทำกับพลเมืองไทยที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานทุกคน โดยเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจหยุดทำร้ายประชาชนทางอ้อมจากการปกปิดข้อมูลสำคัญทางการแพทย์

ในวาระการประชุม นานาประเทศที่เข้าร่วมต่างได้รับการจัดอันดับ ซึ่งเป็นผลสะท้อนถึงความสำเร็จในการรักษาโรคจากระบบต่อมไร้ท่อ (รวมถึงโรคเบาหวาน)

ไทยได้รับคะแนนต่ำสุด แม้แต่อันดับของเวเนซุเอลาที่ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศยากจนและระบบสาธารณสุขแย่ที่สุดประเทศหนึ่ง ก็ยังอันดับสูงกว่าไทยในรายการนี้

เกิดอะไรขึ้นกับโรคต่อมไร้ท่อในไทย? และทำไมแพทย์ในยุโรปถึงกังวลเกี่ยวกับผู้ป่วยโรคเบาหวานชาวไทยทั้งหลาย?

นพ.โยชิโระ มาจิโอะ ประธานการประชุมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านต่อมไร้ท่อชื่อดังชาวญี่ปุ่น หัวหน้าสมาคมแพทย์ต่อมไร้ท่อระหว่างประเทศ ตกลงที่จะให้สัมภาษณ์สั้น ๆ กับเรา

— นพ.โยชิโระ คุณช่วยบอกเราหน่อยได้ไหม มีอะไรผิดปกติกับโรคต่อมไร้ท่อที่ไทย ทำไมถึงได้รับการจัดอันดับคะแนนต่ำเช่นนี้

- ก่อนอื่น ผมอยากบอกว่าผมชอบคนไทยและประเทศไทยมาก รวมถึงวัฒนธรรมของไทยด้วย ผมคิดว่าทุกคนและแพทย์คนอื่น ๆ ก็ชอบด้วยเช่นกัน นี่ไม่ใช่การต่อต้านประเทศไทยหรืออะไรนะครับ

แต่ตอนนี้ผลการศึกษาที่เกี่ยวกับโรคต่อมไร้ท่อมันเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นในไทย ตั้งแต่ช่วงปี 2543 เป็นต้นมา ไทยหยุดรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวาน เพื่อให้หายขาด เพื่อพวกเขาจะได้หาเงินจากการรักษาได้อย่างจริงจัง พบว่า มีเครือข่ายร้านขายยารายใหญ่มากมาย ประมาณ 10 แห่งในไทย แต่เป็นของกลุ่มผู้มีอำนาจเพียงสามคน โดยผู้มีอำนาจเหล่านี้ตัดสินใจด้วยตนเองว่ายาชนิดใดทำกำไร ยาชนิดใดทำให้ขาดทุน พวกเขามีคนของตัวเองแฝงอยู่ทุกหนทุกแห่ง ปัญหาทั้งหมดของผู้ป่วยโรคเบาหวานจึงไม่ได้รับการแก้ไขเสียที

เป็นผลให้ร้านขายยาทั่วไปในตลาด เลือกขายยาชนิดที่ไม่สามารถรักษาโรคเบาหวานได้อย่างจริงจัง เพียงแค่ทำให้อาการของคุณดีขึ้นชั่วคราวเท่านั้น ผู้คนกลายเป็นหนูทดลอง - คนที่ดีขึ้นหรือมีอาการน้อยลง พวกเขาก็จะไปร้านขายยาและมอบเงินก้อนสุดท้ายแก่ยาไร้ประสิทธิภาพนี้ แต่ถ้าให้ถามถึงรายการยาที่ได้มาจากร้านขายยาของไทย พวกแพทย์เฉพาะทางโรคต่อมไร้ท่อชาวยุโรปมักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ยาเหล่านี้ไม่สามารถรักษาโรคเบาหวานให้หายขาดได้

เพื่อให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานชาวไทยเข้าใจว่าพวกเขาได้รับการดูแลตามกฎหมายของไทย พวกเขามีสิทธิที่จะได้รับยาฟรี แต่วิธีการที่จะได้รับการรักษานั้นเป็นไปได้ยากและค่อนข้างช้า จนผู้ป่วยส่วนมากล้มเลิกความพยายามในการเข้ารับการรักษา แต่ถึงได้รับการรักษาก็ไม่มีประสิทธิภาพมากพอและเหมือนโดนหลอกอยู่ดี ด้วย Metformin, Gliclazide, Rosiglitazone, Repaglinide, Isofan, Aspart และอื่น ๆ

ในขณะเดียวกัน ปัจจุบันนี้โรคเบาหวานประเภท 2 ในโลก มีกรณีที่ได้รับการรักษาหายขาดถึง 95%

เราเขียนจดหมายเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่าหรือแม้แต่ถ้อยแถลงที่เป็นทางการก็ตาม รวมทั้งใช้มาตรการสูงสุดในการกีดกันคณะผู้แทนไทย ไม่ให้เข้าร่วมการประชุมเป็นเวลา 2 ปี แต่สิ่งนี้ก็ไม่ได้นำมาซึ่งการปรับปรุงตัวใด ๆ และผมไม่คิดว่าพวกเขาจะอยู่หลังจากจบการประชุมในครั้งนี้ ผมแน่ใจมากว่าผู้ป่วยโรคเบาหวานชาวไทยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังถูกหลอก ระบบราชการไทยแย่มาก ผู้มีอำนาจแค่ “ต้องการทำเงิน สร้างกำไร”

ในขณะเดียวกัน ผมก็รู้ว่ามีอีกหลายกรณีที่ผู้ป่วยโรคเบาหวานย้ายไปรักษาตัวที่ยุโรป จนสามารถหายขาดจากโรคเบาหวานในเวลาเพียงหกเดือนหรือหนึ่งปี เนื่องจากในยุโรปมีวิธีการรักษาโรคเบาหวานที่แตกต่างกับไทยอย่างสิ้นเชิง - ที่นี่มุ่งมั่นที่จะรักษาโรคอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่หลอกเก็บเงิน เพื่อเลี้ยงไข้ผู้ป่วยไปเรื่อย ๆ

ผมจะให้แสดงสถิติเกี่ยวกับสถานการณ์ของโรคเบาหวานในไทยและนานาประเทศ

จำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวาน ปลายปี 2557	จำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวาน ปลายปี 2562
สหรัฐฯ
27.2 ล้านคน	16.1 ล้านคน
ลดลง 41%
เยอรมัน
7.7 ล้านคน	2.6 ล้านคน
ลดลง 76%
ฝรั่งเศส
8 ล้านคน	5.3 ล้านคน
ลดลง 43%
ไทย
10.5 ล้านคน	16.2 ล้านคน
เพิ่มขึ้น 59%

จากสถิติ : จำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวานจากทั่วโลกผู้ป่วยลดลง ในขณะที่ไทยมีแต่เพิ่มสูงขึ้น เพราะยาที่จ่ายให้ผู้ป่วยนั้นเป็นการเลี้ยงไข้ไปเรื่อย ๆ ยิ่งผู้ป่วยรู้ว่าตนเองป่วยมากเท่าไหร่ ก็ยินยอมพร้อมใจจะให้เงินก้อนสุดท้าย เพื่อบรรเทาอาการของโรคเบาหวาน

หากก่อนหน้านี้ ผู้คนสามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้จากสื่อสาธารณะทั่วไปได้ ตอนนี้พวกเขาก็คงไม่ต้องเป็นเหยื่อเช่นนี้ นอกเสียจากไทยจะร่วมปิดกั้นข้อมูลอย่างเข้มงวด เพื่อให้ข่าวที่ส่งผลเสียต่อผู้มีอำนาจถูกปกปิดและบิดเบือนไป

— คุณจะแนะนำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานชาวไทย ทำอะไรในสถานการณ์เช่นนี้ ?

- รักษาอาการเหล่านี้ด้วยตัวเอง เลิกฟังหมอที่มีแนวโน้มจะทุจริตคุณ เพื่อเอาแต่เลี้ยงไข้และแสวงหาเงินจากคุณไปวันๆ มันเป็นทางออกที่ดีที่สุด ตอนนี้ผมจะพยายามบอกคุณว่าสาระสำคัญของแนวทางการรักษาโรคเบาหวานแบบยุโรปคืออะไร แล้วผมจะบอกคุณว่าผู้ป่วยโรคเบาหวานชาวไทยสามารถทำอะไรได้บ้าง

เป้าหมายหลักของการรักษา ด้วยยาต้านเบาหวาน คือ การปรับระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ ซึ่งสามารถทำได้ 2 วิธี ประการแรก คือ การเพิ่มระดับอินซูลินในร่างกาย (โดยการรับจากภายนอก เป็นวิธีการรักษาที่ล้าสมัย ซึ่งในประเทศต่างๆ เหลือแค่ประเทศไทยที่ยังใช้วิธีนี้อยู่) ประการที่สอง คือ การเพิ่มกระบวนการสลายกลูโคสด้วยตัวเอง เพื่อให้แน่ใจว่าเมื่ออินซูลินน้อยลงน้ำตาลกลูโคสจะถูกย่อยสลายมากขึ้น

เมื่ออายุมากขึ้น เราทุกคนรู้ดีว่ากระบวนการผลิตอินซูลินในร่างกายจะลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดโรคเบาหวานประเภทที่ 2 และร่างกายไม่สามารถผลิตอินซูลินเพิ่มขึ้นได้อีก ทางการแพทย์ยอมรับว่ามันคือทางตัน ดังนั้น สิ่งที่ผมกำลังจะเสนอจึงเป็นการเสริมสร้างปฏิกิริยาที่เป็นทางออกสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานครับ

สาระสำคัญในแนวทางของผม ผมจะพยายามอธิบายง่ายๆ การสลายกลูโคสเกิดขึ้นระหว่างไกลโคไลซิส นักวิทยาศาสตร์พบว่ากระบวนการนี้สามารถพัฒนาขึ้นได้อย่างมาก โดยใช้ "ตัวเร่งปฏิกิริยา" แบบพิเศษ ตัวเร่งปฏิกิริยาที่ดีที่สุดสำหรับกระบวนการนี้ คือ อินนูลิน (โพลีแซคคาไรด์จากธรรมชาติ)

สารนี้สามารถเพิ่มปฏิกิริยาการแยกกลูโคสได้มากกว่า 7 ครั้ง ซึ่งนำไปสู่การปรับระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ ด้วยวิธีนี้จำเป็นต้องใช้อินซูลินน้อยกว่าเดิม สำหรับการสลายกลูโคสอย่างสมบูรณ์และใน 97% ของกรณีศึกษา พบว่า ร่างกายสามารถผลิตได้เพียงพอแล้ว

แต่เมื่อใช้อินนูลิน การทำงานของตับอ่อนจะเป็นปกติ โรคเบาหวานประเภทที่ 2 จะรักษาให้หายขาดได้ ซึ่งกระบวนการนี้อาจใช้เวลาหกเดือนถึงหนึ่งปี แต่บุคคลผู้นั้นจะกลับมามีสุขภาพดีเหมือนเดิม

สุขภาพดีหมายถึงอะไร? หมายความว่า หายจากอาการของโรคเบาหวานโดยสิ้นเชิง ซึ่งไม่จำเป็นต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอีกต่อไป และไม่ต้องกังวลว่าโรคเบาหวานจะทำลายร่างกายจากภายใน นี่คือการยืดอายุอย่างน้อย 10-15 ปี

ตัวเร่งการสลายกลูโคส ช่วยรักษาเบาหวานให้หายขาด

สำหรับการค้นพบอินนูลิน นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันได้รับรางวัลโนเบลในปี 2546 ปัจจุบันในยุโรป วิธีนี้เป็นวิธีการรักษาหลักต่อโรคเบาหวานประเภทที่ 2

— แต่ในร้านขายยาของไทย ทำไมถึงไม่มีการใช้อินนูลินอย่างถูกต้อง?

- ใช่ นี่คือประเด็นหลักเลยครับ ผู้มีอำนาจที่เป็นเจ้าของโรงงานยาต่างครอบครองยาไทยบางชนิด โดยไม่อนุญาตให้เข้าขายเข้าสู่ระบบตลาด แพทย์ไทยอ้างว่าการรักษาวิธีนี้ไม่ได้ผล แต่โลกทั้งใบกำลังรับการรักษาด้วยวิธีนี้ จากผลลัพธ์ทางสถิติที่ยอดเยี่ยม ตัวยาเองก็เป็นสารสกัดจากธรรมชาติและมีประโยชน์สำหรับผู้ป่วยทุกคน แต่เราต่างเข้าใจว่าอะไรและใครอยู่เบื้องหลังการกระทำทั้งหมดนี้ “เงินก้อนโต และผู้ที่ไม่ได้สนใจความเดือดร้อนของผู้ป่วย”

แต่ก็มีข่าวดีเช่นกันนะครับ มียาในไทยตัวนึงที่มีอินนูลิน ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยสถาบันวิจัยยาและอาหารแห่งเอเชีย สถาบันนี้มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากนานาประเทศ รวมถึงรศ.พญ.เพ็ญฤดี เสรีประจักษ์ แพทย์คนไทยในสถาบันแห่งเดียวของเอเชียที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหานี้ พวกเขาร่วมต่อต้านผู้มีอำนาจในไทยและ "ไม่ยอมจำนนให้แก่ด้านมืดของพวกเขา"

ยาที่พัฒนาขึ้นชื่อว่า "Sundos" ไม่เพียงแต่คุณภาพเท่าคู่ค้าในยุโรปเท่านั้น แต่ยังเหนือกว่าในด้านส่วนผสมอีกด้วย นอกจากอินนูลินแล้ว Sundos ยังมีวิตามินประมาณ 40 ชนิด รวมถึงมาโครเอลิเมนต์ที่มีประโยชน์สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน มันคือ ส่วนผสมซับซ้อนที่ช่วยต้านทานโรคเบาหวานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ผมจะไม่แสดงรายการส่วนผสมทั้งหมด ซึ่งผมจะบอกคุณแค่บางส่วนเท่านั้น

อินนูลิน	อินนูลิน ทำให้น้ำตาลกลูโคสในเลือดกลับเป็นปกติ
แมกนีเซียมซิเตรต	ช่วยปรับระบบประสาทและระบบไหลเวียนโลหิตที่ส่งผลต่อระดับน้ำตาลสูง ทั้งยังมีส่วนช่วยในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน
แอล - กลูตามีน	เปลี่ยนการผลิตอินซูลินในร่างกายให้เป็นปกติ นอกจากนี้ ยังชะลออัตราการดูดซึมอาหาร สามารถบำบัดระดับน้ำตาลในเลือดที่เกิดขึ้นพร้อมมื้ออาหารให้ต่ำลง

ตอนนี้ผมจะพูดอะไรบางอย่าง ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานชาวไทยที่เบื่อหน่าย และอยากจะยอมแพ้กับการรักษาโรคนี้ เพราะเสียเงินโดยสูญเปล่ามาตลอด

วันนี้คุณจะได้รับ "Sundos" ในราคา 790 บาท !

เท่าที่ผมรู้พนักงานของสถาบันวิจัยยาและอาหารแห่งเอเชียได้แจกจ่าย Sundos เป็นเวลาหกเดือนแล้ว ในช่วงเวลานี้ผู้ป่วยโรคเบาหวานชาวไทยหลายพันคนได้รับแล้ว ผู้ที่ได้รับ Sundos ทุกคนจะได้รับการร้องขอจากทางสถาบันฯ เพื่อทำการสำรวจว่ายานี้ช่วยพวกเขาได้ดีแค่ไหน ในขณะนี้มีผู้เข้าร่วมการสำรวจมากกว่า 2,000 คน

ผลการสำรวจที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ :

• การลดระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ - 99% ของผู้ตอบแบบสอบถาม
• อาการต่าง ๆ ของโรคเบาหวานหายไป : เช่น กระหายน้ำ อ่อนเพลีย ปัสสาวะบ่อย ฯลฯ - 96% ของผู้ตอบแบบสอบถาม
• การมองเห็นและสมรรถภาพทางเพศ - 92% ของผู้ตอบแบบสอบถาม
• ปรับปรุงสภาพผิว - 98% ของผู้ตอบแบบสอบถาม
• ไม่มีผลข้างเคียง - 100% ของผู้ตอบแบบสอบถาม

สำคัญ ! การวิจัยพบว่า เดือนมีนาคมเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเริ่มต้นการรักษา เนื่องจากอุณหภูมิเฉลี่ยคงที่ กระบวนการเผาผลาญในร่างกายจึงถูกเร่งทำให้ผลลัพธ์เพิ่มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การรักษานี้เห็นผลเร็วกว่าช่วงเวลาอื่นของปีถึง 37%

อย่างที่คุณเห็นวิธีการรักษาโรคเบาหวานนี้ ช่วยผู้ป่วยได้จำนวนมาก สำหรับหลาย ๆ คน นี่เปรียบเสมือนโอกาสที่แท้จริงในการกำจัดโรคเรืิ้อรังและต่ออายุ

— ราคา 790 บาท หมดเขตวันไหน ?

-คาดว่าราคานี้จะอยู่จนถึงวันที่ โดยประมาณ แต่ผมอยากจะเตือนคุณว่ามียาเหลืออยู่น้อยมาก สินค้าหมดได้ทุกเมื่อ ดังนั้นผมขอแนะนำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานทุกคน ไปที่เว็บไซต์ตอนนี้ และฝากคำขอไว้ในขณะที่สินค้ามีอยู่นะครับ ก่อนที่มันจะหมดไปและต้องรอการผลิตอีกนาน เนื่องจากปัญหาด้านงบประมาณและอำนาจของเหล่านายทุนผู้ผลิต

โอกาสครั้งที่สองไม่ได้มีเสมอไปนะครับ

เพิ่มเมื่อ 12 ชั่วโมงที่แล้ว | ข่าวสำคัญ ! ในขณะนี้โปรโมชั่นดังกล่าว กำลังจัดขึ้นในกรุงเทพฯและภูมิภาค จนถึงวันที่ สามารถสั่งซื้อ Sundos ได้จากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการในราคา 790 บาท ขณะนี้มีสินค้า เหลือเพียง 30 กล่อง เท่านั้น !